ทำความรู้จักกับพิธีกรรมทางความเชื่อแปลก ๆ เกี่ยวกับผู้ที่ล่วงลับ />

17/05/2023

ทำความรู้จักกับพิธีกรรมทางความเชื่อแปลกๆ เกี่ยวกับผู้ที่ล่วงลับ

การจัดงานศพ หรือพิธีที่เกี่ยวข้องกับความตายนั้น มีมายาวนานตั้งแต่สมัยที่มนุษย์เรายังไม่สามารถอ่านออกเขียนได้เลยด้วยซ้ำ นอกจากนั้นมันยังมีรูปแบบที่หลายคนอาจจะนึกไม่ถึง เนื่องจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปทำให้พิธีกรรมต่าง ๆ อาจจะเลือนหายไป จนสุดท้ายก็กลายเป็นเพียงพิธีแปลกที่คนรุ่นหลังเล่าขานต่อกันมา โดยเราได้รวบรวมพิธีกรรมบางอย่างที่น่าสนใจ เพื่อแบ่งปันให้ทุกคนแล้วดังนี้

งานศพ

เก็บศพไว้ 1 ปีก่อนขุดมาใหม่ ของชาวมอญ

ชาวมอญเป็นชนชาติเจ้าของอารยธรรมอันเก่าแก่ในแผ่นดินพม่า มีการอพยพย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่อดีต โดยการทำศพของชาวมอญจะมีอยู่หลายรูปแบบ โดยพิจารณาจากใครเป็นผู้เสียชีวิต กับอีกข้อหนึ่งก็คือเสียชีวิตได้อย่างไร โดยสามารถแบ่งระดับของผู้เสียชีวิตออกเป็นสองกลุ่ม คือ พระและฆราวาส

นอกจากนั้นสำหรับความเชื่อในเรื่องของการจัดศพ ที่ต้องพิจารณาว่าตายอย่างไร คนมอญจะถือว่าถ้าเป็นศพของคนที่เสียชีวิตแบบไม่ปกติ ก็คือไม่เต็มใจที่จะตายหรือที่เรียกว่า ‘ตายโหง’ เช่น อุบัติเหตุ ตกน้ำ รถชน ฆ่าตัวตาย คนมอญจัดการศพให้ง่ายและรวดเร็วที่สุด โดยไม่มีการสวดอภิธรรมใด ๆ ทั้งสิ้น จากนั้นจะนำศพไปฝังหรือเก็บเอาไว้ในซองใส่ศพ เก็บไว้เช่นนั้นประมาณ 1 ปี ถึงจะขุดศพขึ้นมาทำพิธีอีกครั้ง

ปลุกศพขึ้นมาถ่ายรูป ของชาวอินโดนิเซีย

ในพื้นที่หนึ่งของประเทศอินโดนิเซีย มีประเพณีซึ่งทำติดต่อกันมาเป็นเวลานาน โดยการที่มีความเชื่อว่า บรรพบุรุษของพวกเขายังคงอยู่ข้างกายเพื่อปกปักษ์รักษาลูกหลาน ให้ปลอดภัยอยู่เสมอ โดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณเทือกเขา บนเกาะสุลาเวสีของอินโดนีเซีย จะทำการเปิดหลุมศพขึ้นมาแล้วทำความสะอาดหลุมศพ รวมทั้งบริเวณพื้นที่โดยรอบ จากนั้นตากศพให้แห้งด้วยแสงอาทิตย์ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้

พิธีกรรมแปลก

ภาพจาก bbc https://www.bbc.com/thai/articles/c2jn513lp0ko

ชาวบ้านจะเข้าร่วมพิธีดังกล่าว โดยที่ไม่ได้มีความรู้สึกหวากกลัว พวกเขาสามารถแต่งตัวให้ศพ จัดแต่งทรงผม หรือถ่ายรูปกับร่างผู้เสียชีวิต ที่เป็นหนึ่งในบรรพบุรุษได้อย่างเป็นปกติ ด้วยความเชื่อที่ว่า วิญญาณของผู้เสียชีวิตจะยังล่องลอยอยู่บนโลกหลังเสียชีวิตไปแล้ว ดังนั้นหากคนในครอบครัวเสียชีวิตจะรักษาร่างเอาไว้ จนกว่าตัวเองจะสามารถเก็บหอมรอบริบจนมีเงินจัดพิธีศพอย่างยิ่งใหญ่เพื่อพวกเขาได้นั่นเอง

พิธีกินซุปเถ้ากระดูกคนตาย ของชาวยาโนมามิ

ชาวยาโนมามิเป็นชนเผ่าพื้นเมืองบริเวณป่าอเมซอน โดยพิธีที่ว่านี้เกิดมาจากความเชื่อของคนในชนเผ่า ที่เชื่อว่าความตายไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่เป็นฝีมือจากพ่อมดหมอผีจากเผ่าข้างเคียง ที่ได้ทำการส่งวิญญาณร้ายมารังควานคนในเผ่าของตน จนถึงแก่ความตาย ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกผีร้ายโจมตี ก็จำเป็นจะต้องรีบกำจัดร่างของเหยื่อไปให้สิ้น ด้วยวิธีการเผาแล้วนำเถ้ากระดูกของผู้ตายมาทำเป็นอาหารแบ่งกันดื่มกิน

พิธีกรรมกินซุปเถ้ากระดูก

ภาพ Elena Levon

โดยก่อนที่จะมีพิธีเผาศพของชาวเผ่ายาโนมามินั้น ร่างของผู้ตายจะถูกนำไปวางไว้บริเวณกลางป่า ในพื้นที่ที่ใกล้กับกระท่อมหรือที่อยู่ของผู้ที่ชาวบ้านให้ความเคารพและเชื่อว่าเป็นหมอผีในหมู่บ้าน จากนั้นก็จะทิ้งไว้ให้เน่าเปื่อยตามธรรมชาติ เป็นเวลาทั้งสิ้นประมาณ 30-45 วัน แล้วจึงทำการเก็บร่างมาประกอบพิธีเผา  รวมทั้งเก็บเถ้ากระดูกมาผสมกับซุปที่หมักขึ้นจากกล้วยเป็นขั้นตอนต่อไป โดยในพิธีนี้ชาวบ้านในชุมชนจะมาล้อมวงกันพร้อมหน้าพร้อมตา และจะเวียนดื่มซุปเถ้ากระดูกนี้กันทุกคน

การแต่งงานกับศพ ของชาวจีน

การแต่งงานกับศพเป็นความเชื่อของชาวจีน ที่กลายมาเป็นประเด็นร้อนแรงที่สังคมนำมาถกเถียงกันอยู่ช่วงหนึ่ง เนื่องจากมีคนนำเอาช่องโหว่เกี่ยวกับความเชื่อตรงนี้มาหากิน จนกลายเป็นคดีอันน่าสยดสยองมากมาย พิธีแต่งงานกับผีเป็นการจัดงานแต่งงานให้กับผู้ที่เสียชีวิต โดยมีการทำสืบต่อกันมามาตั้งแต่สมัยราชวงค์ในอดีต โดยเชื่อว่าผู้ที่เสียชีวิตไปก่อนแต่งงานจะกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อน ใช้ชีวิตอยู่ในปรโลกอย่างโดดเดี่ยว และทำให้วงตระกูลล่มจมจึงต้องแก้ด้วยการหาคนมาแต่งงาน หรือหาศพมาแต่งงานด้วยกัน

โดยลักษณะของการแต่งงานรูปแบบนี้จะเกิดขึ้นได้สองกรณี คือการที่นำศพกับศพมาแต่งงานด้วยกัน จากนั้นจัดพิธีและฝังร่างทั้งสอง ให้เคียงคู่กันไปตลอดกาล กับอีกกรณีหนึ่งก็คือการนำเอาคนที่ยังมีชีวิตอยู่มาแต่งงานกับศพ ซึ่งจัดทำขึ้นด้วยความรักและความห่วงใยของครอบครัว ที่ไม่อยากให้บุตรหลานซึ่งยังเป็นโสด หรือคนที่จากไปอย่างรวดเร็วต้องโดดเดี่ยวอย่างทรมานในโลกของความตาย

แต่ไม่ว่าความเชื่อของแต่ละพื้นที่จะมีความแปลก หรือขัดไปจากธรรมชาติที่เราทุกคนรู้สึกกัน ก็ไม่สามารถที่จะไปตัดสินได้ว่าการกระทำแบบไหนถูกหรือผิด เนื่องจากพิธีกรรมที่เรานำมายกตัวอย่างให้ได้อ่านกันนั้น เป็นเพียงหนึ่งในหลายร้อยหลายพันความเชื่อ ที่ทำต่อกันมาเป็นเวลานาน และคนในสมัยนี้ก็ได้มีการเปลี่ยนความคิด จึงทำให้พิธีการบางอย่างถูกปรับเปลี่ยนไปบ้างแล้วนั่นเอง

แนะนำสถานที่ทำบุญโลงศพ พร้อมความเป็นมาและความสำคัญทางความเชื่อ